Day: September 4, 2025
มาราธอน โอลิมปิก 1904 ให้นักวิ่ง ได้เพียง 1แก้ว
มาราธอนในโอลิมปิกปี 1904 ที่จัดขึ้นที่เมืองเซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่มีความแปลกและโด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งโอลิมปิก เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันและปัญหาด้านการจัดการมากมาย ทำให้การแข่งครั้งนี้ถูกจดจำไปอย่างยาวนาน สนามวิ่งในปีนั้นมีความยากลำบากอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพียงเพราะระยะทางที่ไกลถึง 42 กิโลเมตร แต่ยังมีปัจจัยทางสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย เช่น สภาพอากาศร้อนจัดและถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่น อีกทั้งยังมีการขาดการวางแผนที่ดีจากผู้จัดงาน นักวิ่งต้องวิ่งผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยรถม้าและควันจากเครื่องยนต์ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพหลายอย่างกับนักกีฬา หนึ่งในปัญหาหลักที่ทำให้การแข่งขันครั้งนี้แย่ลงก็คือการขาดการจัดหาน้ำดื่มให้กับนักวิ่ง ในช่วงเวลานั้นมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลกระทบของการดื่มน้ำระหว่างการวิ่ง ซึ่งทำให้ผู้จัดงานจำกัดการให้น้ำแก่นักวิ่งอย่างมาก ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ นักวิ่งแต่ละคนสามารถดื่มน้ำได้เพียงหนึ่งแก้วตลอดการแข่งขันทั้งหมด และมีจุดให้ดื่มน้ำเพียงสองจุดเท่านั้น คือที่จุดพักกิโลเมตรที่ 18 และจุดสิ้นสุดการแข่งขัน นักวิ่งต้องทนกับความกระหายและความร้อนเป็นเวลานาน ซึ่งส่งผลให้หลายคนมีอาการวิงเวียน และบางคนถึงกับหมดสติ นักวิ่งคนหนึ่งที่โดดเด่นในเหตุการณ์นี้คือ เฟร็ด ลอร์ซ (Fred Lorz) ผู้ที่ขึ้นนำการแข่งขันไปเกือบถึงจุดสิ้นสุดก่อนที่ร่างกายจะไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาจึงตัดสินใจขอให้รถยนต์รับเขาขึ้นไปนั่งและขับเขากลับไปที่สนามกีฬา ซึ่งเขากลับไปถึงสนามกีฬาก่อนใครและได้รับการประกาศเป็นผู้ชนะไปโดยที่ยังไม่ถึงเส้นชัยจริงๆ เหตุการณ์นี้ทำให้เขาถูกตัดสิทธิ์หลังจากผู้จัดการแข่งขันทราบเรื่อง อีกหนึ่งนักวิ่งที่เป็นที่จดจำจากการแข่งขันนี้คือ โธมัส ฮิกส์ (Thomas Hicks) นักวิ่งชาวอเมริกันที่สามารถคว้าชัยชนะในที่สุด แต่เขาต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานจากความร้อนและการขาดน้ำมากจนต้องได้รับการช่วยเหลือจากทีมแพทย์ระหว่างการวิ่ง เขาได้รับการฉีดยากระตุ้นที่มีส่วนผสมของสโตริกนิน ซึ่งเป็นสารพิษที่ถูกใช้ในปริมาณน้อยๆ เพื่อกระตุ้นร่างกาย ทำให้เขาสามารถวิ่งต่อไปได้จนถึงเส้นชัย แม้ว่าเขาจะเกือบหมดสติเมื่อเข้าเส้นชัยแต่ก็ได้รับการประกาศให้เป็นผู้ชนะจริงๆ