การบุกการตลาดด้วยกลยุทธ์ 4E หลายๆ คนอาจจะเกิดคำถามว่า “แอดมินพิมพ์ผิดรึเปล่า? มันต้องเป็น 4P’s ไม่ใช่เหรอ” ในวงการการตลาดอาจคุ้นชินกับ 4P Marketing หรือ ตัวช่วยในการสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อดึงดูดลูกค้าอย่าง Product/Price/Place/Promotion แต่นี่มันปีศตวรรษที่เท่าไหร่กันแล้ว เพราะการตลาดแบบนั้นถือว่าล้าสมัยไปมาก

เพราะเมื่อโลกมันหมุนทุกวัน อะไรๆ ก็สามารถเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แน่นอนว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคก็คือหนึ่งในนั้นด้วย ดังนั้นกลยุทธ์แบบ 4P’s จึงได้มีการพัฒนาไปเป็น 4E Marketing ซึ่งเน้นการสร้าง Customer Experience ที่น่าประทับใจให้แก่ผู้บริโภคนั่นเอง

โดย 4E Marketing จะประกอบไปด้วย Experience/Exchange/Everywhere/Evangeism ฟังน่าสนใจใช่ไหมหละ แต่ละ E จะมีความหมายและมีหน้าที่อะไรบ้าง เราจะมาอธิบายให้พวกคุณฟังกัน 

Experience / การสร้างประสบการณ์ที่ดี เริ่มกันที่ E ตัวแรก อย่าง Experience ซึ่งพัฒนามาจาก Product แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคในปัจจุบันนั้นไม่ได้ต้องการแค่ สินค้า หรือ บริการ เท่านั้น แต่พวกเขายังคาดหวังกับประสบการณ์ที่ดีในระหว่างการซื้อ ไปจนถึงหลังการซื้ออีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราเดินเข้าไปร้านกาแฟ เราต้องการซื้อเครื่องดื่มที่รสชาติดีก็จริง แต่ยังคาดหวังถึงการบริการของพนักงาน รวมไปถึงมุมถ่ายรูปเก๋ๆ หรือ Packaging น่ารักๆ เอาไว้ถ่ายรูปลง Social ได้อีกด้วย 


Exchange / สร้างความคุ้มค่าเพื่อลูกค้ายอมจ่าย เพราะเมื่อวันเวลาได้ผ่านไปและโลกมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ในปัจจุบัน ผู้บริโภคส่วนมากไม่ได้ให้ความสนใจกับราคามากเท่าเมื่อก่อน แต่พวกเขาให้ความสนใจกับ ความคุ้มค่าที่ได้มามากกว่า ดังนั้นแบรนด์จึงควรหันมาหาวิธีในการสร้าง คุณค่า ให้แก่สินค้าและบริการของตน เพื่อเพิ่มมูลค่า และทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าที่จ่ายเงินซื้อ 


Everywhere / สามารถเข้าถึงได้ง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ สำหรับในปัจจุบันได้มีการย้ายหน้าร้านเข้าสู่โลกออนไลน์แล้ว ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าได้ทุกมุมทั่วโลก ทำเลร้านค้าจึงไม่ใช่สิ่งที่ร้านค้าควรให้ความสำคัญอีกต่อไป ดังนั้นแบรนดจึงควรหันมาเน้นการสร้างหน้าร้านบนโซเซียลมีเดีย และ ศึกษาการทำการตลาดแบบดิจิทัลกันให้มากขึ้นเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด


Evangeism / การสร้างลูกค้าประจำ ในอดีตเราอาจให้ความสำคัญกับการจัดโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถมกันซึ่งนั่นไม่ใช่ข้อเสีย แต่วิธีนี้จะเป็นการดึงดูดลูกค้าแค่ขาจร แต่ส่วนใหญ่จะซื้อสินค้าของเราเฉพาะช่วงโปรโมชั่นหรือชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้น Evangeism จึงเป็นแนวทางในการเปลี่ยนลูกค้าขาจร ให้เป็นลูกค้าประจำ เพื่อให้เกิดเป็น Brand Loyalty ผ่านกลยุทธ์ต่าง ๆ เช่นการเล่าเรื่องราวของแบรนด์ให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.    UFABET เว็บหลัก