สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของทั่วโลกนั้นยังคงค่อนข้างมีปัญหาแต่ถ้าให้เจาะลึกลงไปของแต่ละประเทศนั้นกลับพบว่า 1 ในประเทศที่สามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ของเศรษฐกิจของประเทศตนเองได้และมีแนวโน้มว่าปัญหาเศรษฐกิจของประเทศนั้นจะไม่ได้รุนแรงมากหนึ่งในนั้นก็คือประเทศจีนนั่นเอง
หากมองในด้านการลงทุนในประเทศจีนจะเห็นได้ว่าจีนนั้นมีการลงทุนทำธุรกิจหลายอย่างที่ต่างประเทศอย่างเช่นได้มีการมาลงทุนในประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการมาตั้งโรงงานการผลิตยางรถยนต์ภายในประเทศไทยซึ่งผู้บริหารงานนั้นเป็นของประเทศจีนนั่นเองโดยบริษัทผลิตยางรถยนต์ที่เปิดใหม่ล่าสุดนั้นชื่อว่าบริษัทเจนเนอรัลรับเบอร์ไทยแลนด์จำกัดโดยบริษัทนี้เป็นบริษัทที่มีการขยายการลงทุนจากประเทศจีนมาสู่ประเทศไทยซึ่งมีการก่อสร้างโรงงานไว้ที่นิคมอมตะปลวกแดงจังหวัดระยอง
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศจีนนั้นถือได้ว่าประเทศจีนสามารถควบคุมสถานการณ์เศรษฐกิจได้อย่างดีเยี่ยมและยังมีแนวโน้มลงทุนทางด้านการตลาดออกสู่ประเทศอื่นๆอีกซึ่งแน่นอนว่าประเทศจีนไม่ได้มีการลงทุนการทำธุรกิจกับประเทศไทยประเทศเดียวเท่านั้นยังมีการลงทุนกับประเทศอื่นๆอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเกี่ยวกับเรื่องของอุตสาหกรรมด้านไอทีหรือแม้แต่การลงทุนด้านอื่นๆ
ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าธุรกิจการลงทุนและการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศจีนนั้นมีแนวโน้มการเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในสภาวะสถานการณ์เศรษฐกิจที่ประเทศอื่นกำลังมีผลกระทบกันอย่างหนักนี้อาจกล่าวได้ว่าสถานการณ์ของประเทศจีนตอนนี้ปัญหาด้านเศรษฐกิจมีน้อยมากหากเทียบกับประเทศอื่นๆหรือหากเปรียบเทียบกับประเทศยิ่งใหญ่อย่างประเทศสหรัฐอเมริกา
ซึ่งหลายคนมีการคาดการณ์กันว่าหากสถานการณ์ยังคงเป็นอยู่แบบนี้ไม่แน่ว่าในอนาคตประเทศจีนอาจจะกลายมาเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลกก็เป็นไปได้ดังนั้นประเทศที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือประเทศอเมริกาซึ่งเคยเป็นผู้นำอันดับ 1 อาจจะถูกประเทศจีนแซงนำหน้าทำให้ตนเองตกชั้นลงมาดังนั้นอเมริกาจึงจำเป็นที่จะต้องจับตามองสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของประเทศจีนเอาไว้ให้ดี
สำหรับเรื่องของการลงทุนนั้นประเทศจีนได้มีการเปิดการลงทุนในการสร้างโรงงานผลิตยานยนต์ในครั้งนี้หมดเงินไปทั้งสิ้น 300 ล้านเหรียญสหรัฐและอาณาเขตในการก่อสร้างโรงงานนั้นก็มีการกวาดซื้อพื้นที่ไปทั้งหมด 318 ไร่ด้วยกัน
จากข้อมูลสถิติในตอนนี้อาจกล่าวได้ว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่มีการผลิตยางรถยนต์และมีการนำออกมาจำหน่ายทั่วโลกไปแล้วด้วยจำนวนทั้งสิ้น 12 ล้านเส้นซึ่งข้อมูลนี้เป็นข้อมูลการผลิตยางรถยนต์เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นและถ้าหากมีการสร้างโรงงานขึ้นมาใหม่มีการนำเครื่องจักรที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิตยางรถยนต์เชื่อว่าอัตราค่าบริการในการส่งออกยางรถยนต์ของประเทศจีนน่าจะสูงขึ้นมากกว่านี้อีกแน่นอน
